เฉกเช่น ร่างกายของเรา ที่มีจุดสลบที่เมื่อโดนตึ แล้วจะสลบ เช่น ท้ายทอย โดนตีก็จะสลบได้ แต่ว่าตีแขนหรือขา ก็จะไม่สลบ ดังนั้น ชีวิตเราก็เหมือนกัน ที่เราจะต้องมาดูว่า มีจุดไหนบ้างที่จะ ทำ 20 ให้ได้ผลลัพธ์ 80 คือ ทำไม่เหนื่อยแบบเก่า แต่ผลลัพธ์จะได้มากกว่าเดิม
1) ปรับเปลี่ยนกรอบความคิด
– เข็มนาฬิกา vs เข็มทิศ –> คนส่วนใหญ่ในโลก ทำงานด้วยเข็มนาฬิกา ไม่ใช้เข็มทิศ คุณต้องตอบคำถามนี้
“คุณกำลังพยายามมุ่งไปทางไหน และทำอะไร สำคัญกว่าคุณจะทำงานได้มากขึ้นหรือไม่ และทำได้ดีแค่ไหน”
“คุณกำลังทำสิ่งทีทำให้คุณบรรลุเป้าหมายหรือไม่”
– เข็มนาฬิกา คือ ข้อผูกมัด การนัดหมาย แผนกำหนดการ เป้าหมาย กิจกรรมต่างๆ การสื่อสารกับทีม
– เข็มทิศ คือ วิสัยทัศน์ คุณค่า หลักการ (กฎ) อัตลักษณ์ จิตสำนึก ทิศทางที่คุณดำเนินชีวิต (ถ้าชีวิตยังไม่ดี คนรอบข้างก็ฟีดแบคไม่ดีกับคุณ แสดงว่าคุณจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง เช่น หนังสือที่คุณอ่าน วิธีคิดของคุณ นิสัยของคุณ เป็นต้น)
2) กรอบความคิดกำหนดส่ิงที่คุณจะได้รับ
มองเห็น –> ปฏิบัติ –> ได้รับ —> มองเห็น —->
(จุดเริ่มต้นของผลลัพธ์ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น ต้องดูแลกรอบความคิดของคุณให้ดี)
สภาวะการติดอยู่ในความเร่งรีบ (4 qaudrant of prioritize) เวลาส่วนใหญ่ควรอยู่กับงานสำคัญ แต่ไม่เร่งด่วน คือ การมองวิสัยทัศน์ การพัฒนาตนพัฒนาทีม การวางแผนงาน การกำหนดค่านิยม การสร้างสายสัมพันธ์ (บัญชีออมใจ ต้องปฏิบัติตนสม่ำเสมอต่อเนื่อง จึงจะชนะใจคน) การสอนอย่างถูกต้อง การสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ (ยิ่งมีปัญหากับใคร ยิ่งต้องสื่อสาร ความเงียบ คือ การเพิ่มปัญหา ไม่ฟัง ไม่ปรับ ยิ่งไปกันไม่ได้ สายสัมพันธ์ยิ่งแย่ไปกันใหญ่)
*** เอาเวลา 3 4 มาใช้กับ 2 สุดท้าย ทำ 2 มากขึ้น 1 จะลดลง เราจะมีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่กับ 2 ***
3) การยกระดับตน ด้วยการผนึกพลังความต้องการพื้นฐานทั้งสี่
– กายภาพ เช่น ร่างกาย การแต่งกาย
– สังคม เช่น การมีเพื่อน เข้าสังคม
– สติปัญญา เช่น มนุษย์ความมีสติปัญญาเพิ่มพูน เมื่ออายุเพิ่มขึ้น โดย ฟังซีดี อ่านหนังสือ เข้าสัมมนา
– จิตวิญญาณ เช่น การคิดถึงองค์กร สังคม ประเทศชาติ ถ้าหากคิดระดับจิตวิญญาณ จะทำให้เราอัพเกรดความสามารถได้ เพราะเราจะมุ่งให้คุณค่ากับคนอื่น แล้วเราจะมีพลังล้นเหลือ
ศักยภาพเฉพาะของมนุษย์ 4 ประการ
- การรู้จักตนเอง
- จิตสำนึก (รู้เรื่องอะไรควรไม่ควร เช่น จรรยาบรรณ และการสำนึกคุณ) เป็นแบบอย่างให้คนรุ่นใหม่อย่างมีจิตสำนึก
- ปณิธานแห่งอิสรภาพ (ควรต้องมีแรงฮึด เพื่อสร้างอิสรภาพให้ได้)
- จินตนาการสร้างสรรค์ (เพื่อสร้างความสำเร็จ)
4) การบริหารเวลาโดยการวางกรอบปี แต่จดจ่อรายสัปดาห์
(วางแผนงานรายปี และรายไตรมาส ซึ่งช่วงเวลา 3 เดือนเป็นช่วงเวลาที่คุณปรับอะไรได้ ไม่ยาวไม่สั้นเกินไป, ลงมาเนื้องานรายเดือน และรายสัปดาห์ ซึ่งจะครอบคลุมงานพัฒนาตน และเนื้องานเพื่อสร้างธุรกิจ แต่เราจะไม่จดจ่อรายวัน ซึ่งสั้นเกินไป เปรียบเสมือนคนหาเช้ากินค่ำ)
- เชื่อมโยงเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และปณิธานชีวิตของคุณ (ปณิธานที่เป็น ผู้นำที่ช่วยเหลือ เปลี่ยนแปลง ยกระดับชีวิตผู้คน) จงตอบคำถามเหล่านี้ปีละครั้ง
- อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด ในชีวิตของคุณ
- อะไรคือส่ิงที่ทำให้ชีวิตของคุณมีความหมาย
- คุณอยากที่จะเป็นอะไร และต้องการที่จะทำอะไรในชีวิต
- กำหนดบทบาทของคุณ และส่ิงที่คุณต้องทำรายสัปดาห์ สิ่งที่ต้องทำในบทบาทต่างๆ เช่น ดาวน์ไลน์ อัพไลน์ ผู้จัดการ ผู้นำ เทรนเนอร์ เชียร์ลีดเดอร์ คนขององค์กร ซึ่งไม่ว่าจะสัปดาห์ไหน คุณต้อง “ลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ”
- ปรับและเลือกเป้าหมาย ในพื้นที่ 2 สำหรับแต่ละบทบาท
- จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันทำสิ่งเหล่านี้ในสัปดาห์หน้า
- ฉันจะรู้สึกอย่างไร ต่อบทบาทที่ฉันเป็น
- จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันทำได้เพียงบางอย่าง
- ฉันจะได้รับผลแตกต่างต่อชีวิต ในทางบวกหรือไม่
- ถ้าฉันทำสิ่งเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ จะเป็นอย่างไร
- ฉันจะมีประสิทธิผลมากกว่าที่เป็นอยู่นี้หรือไม่
5. จัดตารางทำกิจกรรมประจำสัปดาห์
6. ซื่อสัตย์และรักษาวินัยในการปฏิบัติ
7. ประเมินผล
- ฉันได้บรรลุผลในเป้าหมายอย่างไรบ้าง
- ฉันได้เผชิญความท้าทายอะไรบ้าง
- ฉันได้ตัดสินใจอย่างไร
- ในการตัดสินใจ ฉันได้คิดถึงสิ่งสำคัญก่อนหรือไม่
- ฉันกำลังคืบหน้าไปสู่เป้าหมายรายปี และวิสัยทัศน์หรือไม่
5) การสร้างข้อตกลงแบบหวังผลร่วมกัน
องค์ประกอบ 5 ประการ
- ผลที่ต้องการ
- แนวทาง
- ทรัพยากร เช่น สื่อ บัตร เวลาของอัพไลน์
- ความรับผิดชอบที่วัดผลได้ เช่น จำนวนคนเข้างาน จำนวนคนรับเข็ม
- ผลที่จะตามมา
6) การปลดปล่อยศักยภาพจากภายในสู่ภายนอก
- ความน่าไว้วางใจ (ส่วนตัวและองค์กร) มีคุณลักษณะ ที่รักษาคำพูด วุฒิภาวะ ความใจกว้าง มีความสามารถ ทักษะ โครางสร้าง และการพึ่งพาซึ่งกันและกัน
- ความไว้วางใจ (มีข้อ 1 และเกิดข้อ 2, มี 5 ข้อ 2 ก็เกิ)
- ข้อตกลงแบบชนะ – ชนะ
- การกำกับดูแล
- โครงสร้างและระบบที่สอดคล้อง
- ความรับผิดชอบ ที่วัดผลได้
“เมื่อไรก็ตามที่คุณคิดว่าปัญหานั้นอยู่ที่โน่น ความคิดนั้นแหล่ะคือปัญหา” เราต้องแก้ที่ความคิดของเราก่อนจึงจะสำเร็จ
ใส่ความเห็น